จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ความหมายของดอกไม้ชนิดต่าง ๆ

กุหลาบ

กุหลาบแดงและขาวรวมกัน : ดอกไม้สำหรับสื่อความหมายให้รู้ว่า "สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน" 

กุหลาบสีชมพู : ดอกไม้สำหรับความงดงามและความอ่อนโยน 

กุหลาบสีเหลือง : เป็นดอกไม้ที่บอกเป็นนัยว่า "ขอเป็นชู้ทางใจ" หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง 
กุหลาบสีส้ม : ดอกไม้เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา กุหลาบแดงเข้ม(สีเหมือนไวน์แดง) แทนคำว่า "เธอช่างสวยเหลือเกิน" 
กุหลาบสีขาว : ดอกไม้สำหรับบอกว่า "ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน" 
กุหลาบตูมที่มีทั้งใบและหนาม : เป็นดอกไม้ที่บอกให้รู้ว่า "แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ" 
กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด 
กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น 
กุหลาบตูมสีแดง : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา "รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก" 
กุหลาบตูมสีขาว : ดอกไม้ที่แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก 
กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก : เป็นดอกไม้ที่บอกว่า "นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้" 
กุหลาบบานสีแดง : ดอกไม้สำหรับบอกให้รู้ว่า "ฉันรักเธอเข้าแล้ว" 
กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว : เป็นดอกไม้ที่เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว" 
กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย "เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว" 
กุหลาบไร้หนาม : เป็นดอกไม้ที่สื่อให้รู้ว่า "เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ" 
กุหลาบดอกเดียว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย "รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว"

คาร์เนชั่น


คาร์เนชั่น สีแดง : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า "เห็นใจในความรักของฉันที่มีต่อเธอบ้าง" เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน 
สีชมพูหวาน : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า "ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรักฉันด้วย" 
คาร์เนชั่นลาย : ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่งไปเพราะมันหมายถึง "ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย" 
คาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบดอกออกไป : เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า "ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย"


ทิวลิป


เป็นดอกไม้ที่หมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ความรักที่ฉาบฉวยและจึดจางอย่างรวดเร็ว
ทิวลิปสีแดง : ดอกไม้ที่สื่อว่า "อยากให้โลกรู้ว่าฉันรักเธอ" 
ทิวลิปสีเหลือง : ดอกไม้ที่สื่อว่า มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า "ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร" 
ทิวลิปหลากสีในช่อเดียวกัน : ดอกไม้ที่หมายความว่า "ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้"

ดอกลิลลี่


เป็นดอกไม้ที่แทนความรักอ่อนหวาน บริสุทธิ์ อ่อนไหวต่อโลก "เธอเป็นรักแรกของฉันนะ คนดี"

ดอกไอวี่


เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก แต่ถ้าหนุ่มคนไหนต้องการขอสาวแต่งงานลองส่งดอก ไอวี่แทนใจก็ได้ เพราะอีกนัยหนึ่ง หมายถึงการแต่งงาน

ดอกมะลิ


ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน มะลิ แทนความหมาย "เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา" หรือ "เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง"

กล้วยไม้



เป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า "ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้"

ดอกหญ้า


คือดอกไม้ที่ใช้สื่อความรักที่เปี่ยมด้วยอิสระ แทนความว่า "ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะคนดี"

ดอกบัว


เป็นดอกไม้แทนความสงบและความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็น "รักด้วยความศรัทธาและชื่นชม"

แกลดิโอลัส


เป็นดอกไม้ที่สมควรส่งให้สาวที่เข้มแข็ง และมีความมั่นใจ เพราะแทนคำว่า "เธอช่างเป็นสาวมั่นจริงๆนะ" และยังเหมาะที่จะใช้เป็นดอกไม้แสดงความยินดี แทนคำว่า "ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จ ครั้งนี้"

ทานตะวัน


ดอกไม้ที่แทนสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม ถ้าได้รับดอกทานตะวันเหมือนได้รับสารว่า "แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ" และยังหมายถึง "รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์"

แดฟโฟดิล

เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้ คนรู้ใจ เพราะส่งแดฟโฟดิลเหมือนบอกว่า "น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรของเธอ สมแลัวกับที่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉัน"


ซ่อนกลิ่น

ดอกไม้สำหรับคนที่มีรักซ้อนซ่อนใจ ไม่อาจเปิดเผย "ฉันแอบรักเธออยู่นะ" หรือ "ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน"


Lilac 



ดอกไม้สำหรับการส่งให้กับความรักครั้งแรก





ท่องเที่ยวทะเลกันเถอะค่ะ



1.เกาะภูเก็ต 
เกาะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เชื่อมโยงการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลพังงาและกระบี่ และยังมีหมู่เกาะบริวารมากมาย รวมถึงชายหาดที่สวยงามที่สามารถขับรถชมวิวไปได้เรื่อยๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และกิจกรรมครบถ้วน สำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม การเดินทางก็สะดวกด้วยเครื่องบิน รถยนต์ส่วนตัว รถโดยสาร หรือรถทัวร์
รอบเกาะภูเก็ตมีชายหาด 36 หาด แต่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีประมาณ 20 หาด สถานที่ท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
-  จุดชมวิว  จุดชมวิวสามอ่าว มองเห็นชายหาดถึง 3 อ่าว คือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน ส่วนแหลมพรหมเทพ เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกดิน
- เที่ยวชายหาด ที่เด่นๆ เช่น หาดทรายแก้ว หาดไม้ขาว หาดในยาง
- ชมหมู่เกาะรอบภูเก็ต เดินทางด้วยเรือหางยาวจากหน้าหาดหรืออ่าวต่างๆ เกาะที่น่าสนใจ เช่น เกาะแก้ว เกาะบอน เกาะราชาน้อย เกาะราชาใหญ่
2.เกาะราชาใหญ่ 
 เดินทางจากท่าเรืออ่าวฉลอง และหาดราไวย์ เรือเร็วใช้เวลา 30 นาที และเรือหางยาวประมาณชั่วโมงเศษ เกาะราชาใหญ่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาตลอด เหมาะแก่การเล่นน้ำและดำน้ำชมปะการัง
รอบเกาะมีชายหาดสวยงามหลายแห่ง ครึ่งวันสามารถชมได้รอบเกาะ เริ่มจากชายหาดตะวันตก อ่าวสยาม อ่าวทือ อ่าวขอนแค และอ่าวตะวันตก
3.เกาะเฮ
จากท่าเรืออ่าวฉลอง และหาดราไวย์ เรือเร็วใช้เวลา 15-20 นาที และเรือหางยาวประมาณ 45 นาที นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ มีความงามเทียบเท่าเกาะราชาใหญ่ น้ำทะเลใสจนมองเห็นปะการังน้ำตื้น มีฝูงปลาหลากสี และสามารถดำน้ำได้เพียงแค่ใช้หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางทะเล ทั้งพาราเซล บานาน่าโบ๊ท และซีวอล์คเกอร์
4.เกาะแก้ว
เดินทางโดยเรือหางยาวจากหาดราไวย์เพียง 15 นาที ใครที่ไม่ชอบนั่งเรือนานๆ ชอบค่าใช้จ่ายแบบประหยัด และบรรยากาศเงียบสงบ เกาะแก้วเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้บนเกาะยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองให้ได้ไปสักการะกันด้วย


5.เกาะบอน
ไม่ไกลจากเกาะแก้ว และใช้เวลาเดินทางจากหาดไรเวย์เพียง 15 นาที ที่เกาะนี้มีชายหาดพระจันทร์เสี้ยว ทรายขาวสะอาด ร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าว ท้ายหาดมีโขดหินสามารถตกปลาได้ และริมหาดมีร้านอาหารราคาย่อมเยาว์คอยให้บริการอยู่
6.เกาะมะพร้าว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเช้าเย็นกลับ โดยเหมาเรือหางยาวจากท่าเรือบ้านแหลมหิน ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมาชมการเลี้ยงหอยมุก และวิถีชีวิตของพี่น้องชาวประมง ส่วนชายหาดเป็นเลนจึงไม่นิยมลงเล่นน้ำกัน
7.เกาะรังใหญ่
มีแพคเกจทัวร์บริการ หรือจะเหมาเรือหางยาวจากท่าเรือแหลมหินมาเองก็ได้  นักท่องเที่ยวนิยมมาชมฟาร์มหอยมุกทางด้านตะวันออกที่เป็นดินเลน ส่วนทางตะวันตกเป็นหาดทรายขาวสะอาดสามารถลงเล่นน้ำได้
8.เกาะรังน้อย
อยู่คู่กับเกาะรังใหญ่  มีชายหาดขาว น้ำทะเลใส ลงเล่นน้ำได้ตลอดแนว แต่บนเกาะยังไม่มีที่พักบริการ
9.เกาะไม้ท่อน
เกาะในฝันของทั้งชาวไทยและเทศ  เนื่องจากมีชายหาดขาวสะอาด ค่อยๆลาดลง มีแนวปะการังยาว 1 กิโลเมตร และมีกิจกรรมทางทะเลมากมาย  มีเกาะไม้ท่อนรีสอร์ทให้บริการ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน




เอาใจใส่ตัวเองกันเถอะค่ะ

10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพ

ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก

1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง


2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี


3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว



4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ


5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ


6. สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล


7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%


8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย



9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด


10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้











หัดทำอาหารอิตาเลี่ยนกันเถอะค่ะ

ลาซานญ่ามีทซอสแฮมเห็ด

ส่วนผสม

 1.เนื้อบด

 2.แฮม

 3.เห็ด

 4.ชีส

 5.มะเขือเทศกระป๋อง(ทั้งเนื้อและน้ำ)

 6.ออริกาโน่

 7.เกลือ

 8.พริกไท

 9.น้ำมันมะกอก

 10.เนย

 11.แผ่นลาซานย่า


วิธีทำ

 1.ต้มแผ่นลาซานย่า เสร็จแล้วพักไว้

 2.ทำมีทซอส ตั้งกะทะใส่น้ำมันมะกอกแล้วใส่เนื้อลงไปผัดจากนั้นใส่น้ำมะเขือและเนื้อมะเขือเทศลงไป พอเดือดปรุงรสด้วยเกลือ พริกไท ต้มต่อไปเรื่อยๆจนข้น

3.ตั้งกระทะผัดเห็ดกับเนยให้หอม แล้วเทลงไปในมิทซอส และใส่ออริกาโนนิดหน่อยให้พอหอม พอข้นแล้วปิดเตาพักไว้

4.หั่นเฮมให้เป็นชิ้นบางๆแต่ยาว

5.เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วให้นำแผ่นลาซานย่ามาวางใส่จาน ราดทับด้วยมีทซอส วางแฮมทับลงไปแล้วโรยด้วยชีส ทำแบบนี้ 3 ชั้น

6.นำเข้าเตาอบๆให้ชีสละลาย

7.นำออกจากเตาตักเสริฟได้ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ







สปาร์เก็ตตี้ซอสครีมต้มยำ



เครื่องปรุง
1.ซอสครีมต้มยำ     2     ถ้วย
2.เส้นสปาร์เก็ตตี้ต้มสุกแล้ว     500     กรัม
3.กุ้งแกะเปลือกลวก     200     กรัม
4.หอยแมลงภู่    300     กรัม
5.ปลาหมึกหั่นแว่นลวก     200     กรัม
6.ข่าสับละเอียด     1     ช้อนชา
7.ตะไคร้ซอย     1     ช้อนชา
8.ใบมะกรูดสับละเอียด     1     ช้อนชา
9.พริกขี้หนูซอยหรือพริกขี้หนูป่น     1     ช้อนชา
10.น้ำมะนาว     4     ช้อนโต๊ะ
11.น้ำปลา     6     ช้อนโต๊ะ
12.พาเมซานชีส     2     ช้อนโต๊ะ
13.ทาบัสโก้         พอประมาณ
วิธีทำ
1. นำกระทะตั้งไฟใส่ซอสครีมต้มยำลงไป ต้มให้ร้อน
2. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป ผัดให้เข้ากัน
3. ใส่ อาหารทะเลลงไป ผัดให้สุก ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว ข่าสับละเอียด ใบมะกูดสับละเอียด ตะไคร้ซอย เพื่อเพิ่มกลิ่นของซอสต้มยำ ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4. ก่อนยกลง โรยหน้าด้วยพาเมซานซีส ทาบัสโก้ พริกขี้หนูซอย ผัดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟร้อนๆ

สปาเก็ตตี้ คาโปนารา (ซอสขาว)

วิธีทำพร้อมส่วนผสม
1.เอามะกะโรนี หรือสปาเก๊ตตี้ มาต้มให้สุก
2.เอาหม้อตั้ง เนยลงไปผัดให้ละลาย 2 ชต.(ถ้าไม่พอกHเติมได้)
3.แป้งสาลีลงไปคนๆ 3 ชต. หรือมากกว่านั้น
4.น้ำมันมะกอก 1 ชต.
5.น้ำนิดหน่อย(หรือนม)
6.เกลือ+น้ำตาลนิดหน่อย
7.ดับเบิ้ลครีม(แกรเดอร์)ใส่ลงไป 1 dl.ถึง2 dl.หรือเติมนมสดลงไปด้วยก็ได้ คนให้เข้ากันดีแล้วใส่มะกะโรนีที่ต้มสุกแล้วลงไปผัดรวนให้เข้ากัน ยกขึ้นเทใส่จาน ก็เอามาทานกับไส้กรอกหรือแฮม เอามาทอดหั่นเป็นชิ้น และเอาไข่แดงใส่ลงไปแล้วคลุกๆให้เข้ากัน ก็ทานได้เลยจ๊า
อีกสูตรหนึ่งนะคะเอามาจากคู่มือทำอาหารอิตาเลี่ยนค่ะ
ส่วนผสมมีดังนี้:
1. น้ำมันมะกอก 1ช้อนโต๊ะ
2. เนย 3 ช้อนโต๊ะ
3. เบค่อนแบบ Unsmoked Bacon หรือถ้ามี Pancetta Bacon ได้ยิ่งดี และหั่น 1/3 ถ้วย
4. ไข่ 3 ฟอง
5. นม 2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเข้มข้นให้ใส่ Heavy Cream 4 ช้อนโต๊ะ),
6. ใบไทม์สดรือผงก็ได้ค่ะ 1 ช้อนโต๊ะ
7. เส้นสปาเก็ตตี้หรือจะเป้นพาสต้าก็ได้ค่ะแล้วแต่ชอบ 8 ออนซ์(675 กรัม)
8. พาร์เมซานชีส 1/2 ถ้วย
9. เกลือกับพริกไทย
วิธีทำ:
1. ใส่น้ำมันมะกอกและเนยลงไป แค่ร้อนกำลังแตกฟอง(ยังไม่ละลาย)
2. ใส่เบค่อนลงไปผัด 5 นาทีหรือเริ่มกรอบ
3. ผสมไข่กับนมเข้าด้วยกันในชามเล็ก ใส่ใบไทม์ เกลือและพริกไทยลงไปผสมด้วยเลย
4. ลวกเส้นสปาเก็ตตี้หรือพาสต้าตามรายละเอียดข้างกล่อง
5. นำเส้นสปาเก็ตตี้มาผสมกับไข่ที่ผสมเตรียมไว้ แล้วผัดลงไปประมาณ 30 วินาทีแล้วใส่เบค่อนลงไปด้วย
6. ใส่พาร์เมซานชีสผสมลงไปครึ่งหนึ่ง
7. ตักใส่จานเสริฟแล้วโรยพาร์เมซานชีสที่เหลือลงไปบนบนสปาเก็ตตี้ค่ะ
โดย:คุณ ต้นโอ๊ค
อีกสูตรซ๊อสคาโปนารา
1.เนย 20 กรัม
2.ไข่แดง 2 ฟอง
3.Heavy Cream 6 ช้อนโต๊ะ
4.หมูแฮม หรือ เบคอน 100 กรัม
5.หอมหัวใหญ่สับหยาบ 1 หัว
6.ผักชีหั่นละเอียด
7.เกลือ พริกไทย
วิธีทำ
1.ตั้งกระทะ ผัดหอม เนย และหมูแฮมหรือเบคอน
2.ขณะนั้น ผสม Heavy Cream ไข่แดง และพริกไทย เกลือ ให้เข้ากันในชาม
3.เมื่อหมูแฮมและหอมสุกได้ทีปิดไฟเท Heavy Cream ผสมไข่ ลงในกระทะคนให้เข้ากัน เสร็จเรียบร้อย ราดบนสปาเก็ตตี้ โรยผักชี และชีส

สปาเก็ตตี้ปูอัดผัดผัก 3 สี



ส่วนผสมมีดังนี้ (สำหรับ 2 ที่)
1.เส้นสปาเก็ตตี้โฮลวีทต้มสุก 2 ถ้วย
2.ปูอัดหั่นเป็นแท่งยาว 1 ซม. 6 แท่ง
3.เม็ดข้าวโพดหวานต้มสุก 1/2 ถ้วย 
4.แครอทหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
5.เม็ดถั่วลันเตา 2 ช้อนโต๊ะ
6.ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
8.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
หลังจากที่ได้เตรียมส่วนผสมกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือปรุงกันได้เลย ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย โดยเริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางให้ร้อน จากนั้นนำปูอัดลงไปผัด ใส่เส้นสปาเก็ตตี้โฮลวีทที่ต้มสุกแล้วลงไปผัด
แล้วก็ตามด้วยเม็ดข้าวโพดหวานต้มสุก แครอท เม็ดถั่วลันเตา พร้อมกับปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย แล้วก็ผัดเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพ ตัก”สปาเก็ตตี้ปูอัดผัดผัก 3 สี” ใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ อิ่มอร่อยกันไป

ลาซานย่าผักขม




ส่วนผสม

1.แผ่นลาซานย่า

2.แฮม

3.เห็ด

4.ผักขม

5.ครีมสด

6.เนย

7.ชีส

8.เกลือ

9.พริกไท

10.น้ำมันมะกอก

วิธีทำ

1.นำแผ่นลาซานย่า3แผ่นลงต้มต้มเสร็จแล้วพักไว้

2.นำผักขมไปผัดกับเนย เกลือ จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อย ผัดนานหน่อยนะคะจนน้ำแห้ง จากนั้นพักไว้

3.ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไปผัดกับเห็ด ใส่แฮมตามลงไป ผัดพอสุก เติมครีมสด เหลือ พริกไท เติมน้ำนิดหน่อย ผัดพอมีน้ำขลุกขลิก

4.จากนั้นเอาภาชนะออกมาเอาข้อง1,2,3วางเป็นชั้นและโรยด้วยชีส ทำแบบนี้3ชั้น โรยปิดหน้าด้วยชีส

5.นำเข้าเตาอบจนชีสละลายและเกรียม นำออกจากเตาพร้อมตักเสริฟค่ะ